วันพุธที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ประโยชน์ทางยากล้วยน้ำว้า


     
     กล้วยน้ำว้าถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารและทางยาที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ด้วยเอกลักษณ์ที่เป็นพืชปลูกง่ายเราจึงพบเห็นกล้วยนำว้าได้อยู่ทั่วไป ในปัจจุบันมีการคัดสายพันธุ์ของกล้วยน้ำว้าเพื่อปลูกในเชิงพาณิชย์ มีหลายหลายสายพันธ์ุด้วยกัน ในวันนี้ผู้เขียนขอนำเสนอประโยชน์ทางยาของกล้วยน้ำว้าให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบกันครับ
   

ประโยชน์ทางยาของ…กล้วยน้ำว้า

  • ผลกล้วยดิบมีรสฝาดใช้แก้ท้องเสีย โรคกระเพาะอาหารเพราะมีฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะ โดยออกฤทธิ์สมานแผล และเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อเมือกในกระเพาะและเร่งการแบ่งตัวของเซลล์เยื่อเมือกด้วยสารสำคัญ คือ ซิโตอินโดไซด์ ผลสุกมีรสหวานใช้เป็นยาระบาย
การใช้รักษาโรคกระเพาะอาหาร
  • ใช้ผลกล้วยดิบหรืออาจใช้ผลกล้วยดิบที่ฝานบางๆ แล้วตากแดดให้แห้งแล้วบดละเอียดเป็นผง เวลากินใช้ชงน้ำร้อนดื่มรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบได้ เพราะมีสรรพคุณฝาด สมานแผล กระตุ้นกระเพาะให้หลั่งสารมิวซินออกมา
  • ใช้ผลกล้วยดิบที่ฝานบางๆ ตากแดดให้แห้งแล้วบดละเอียดเป็นผง ปั้นเป็นยาลูกกลอนทานครั้งละ 4 เม็ด หลังมื้ออาหาร
การใช้รักษาอาการท้องเสีย
  • ใช้กล้วยดิบๆ มาหั่นบางๆ ตากแดดให้แห้งและบดให้ละเอียดเป็นแป้ง ใช้ผงกล้วยนี้ในปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ชงในน้ำร้อนปริมาณเท่ากัน เอามาดื่ม หรือใช้ผงกล้วยนี้ในปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ ใส่ในถ้วยน้ำชา และเอาน้ำผึ้งผสม 1 ช้อนโต๊ะ แล้วดื่มแก้ท้องเสีย พบว่ากล้วยมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ที่เป็นสาเหตุอาการท้องเสีย และมีสารแทนนินซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน ใช้แก้อาการท้องเสียได้
  • ใช้ยาที่ปั้นเป็นลูกกลอนแบบเดียวกันกับวิธีกินเพื่อรักษาโรคกระเพาะได้เหมือนกัน
การใช้รักษาท้องผูก
กินกล้วยน้ำว้าสุกงอม วันละ 2-4 ผล ช่วยแก้อาการท้องผูก เพราะมีเยื่อเพกตินช่วยหล่อลื่นอุจจาระและเพิ่มกากอาหาร
กล้วยน้ำว้า
ความเป็นพิษ: เนื่องจากสารซิโตอินโดไซด์ เป็นสารในกลุ่มสเตียรอยด์ การใช้ในรูปสารสกัดในระยะยาวอาจมีผลเสีย แต่การใช้กล้วยรักษาอาการต่างๆ นั้นมีฤทธิ์น้อยกว่าสารสกัดเป็น 300 เท่า และรักษาเป็นครั้งเป็นคราว จึงใช้ได้อย่างปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.aroka108.com

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น